Batman: Arkham Asylum เกมซูเปอร์ฮีโร่ที่ทำให้เรา “ได้เป็นแบทแมน” มากกว่านั่งดูแบทแมน

Browse By

Batman: Arkham Asylum คือหนึ่งในเกมซูเปอร์ฮีโร่ไม่กี่เกมที่เวลาเล่นแล้วเราจะรู้สึกจริง ๆ ว่า “นี่เราเป็นแบทแมนอยู่” ไม่ใช่แค่กดปุ่มให้ตัวละครค้างคาวตัวหนึ่งวิ่งไปมาเฉย ๆ เกมแอ็กชันจากปี 2009 เกมนี้รวบทุกอย่างที่คนคาดหวังจากอัศวินรัตติกาลไว้ครบ ทั้งการต่อยลูกสมุนแบบดุเดือด การลอบเร้นจากเงามืด การใช้แกดเจ็ตไฮเทค สืบสวนปริศนา และบรรยากาศบ้า ๆ บนเกาะ Arkham ที่เต็มไปด้วยผู้ป่วยจิตและวายร้ายระดับตำนาน

บทความนี้เราจะพาไปไล่ดูแบบละเอียดว่า

  • ทำไม Batman: Arkham Asylum ถึงกลายเป็น “มาตรฐานใหม่” ของเกมซูเปอร์ฮีโร่
  • ระบบเกมเพลย์หลัก ๆ มีอะไรบ้าง และมันทำให้เรารู้สึกเป็นแบทแมนยังไง
  • เลเวลดีไซน์แบบเกาะเดียว ทางเข้า UFABET ล่าสุด แต่โคตรแน่น
  • เสียงพากย์และบรรยากาศที่ทำให้เกมนี้ยังไม่เก่าในใจแฟน ๆ
  • ถ้าอยากกลับไปเล่นในยุคนี้ มีทางเลือกแบบไหนบ้าง

พร้อมมุกและมุมมองแบบเพื่อนคุยเกมกันสบาย ๆ ไม่ต้องซีเรียสเหมือนอยู่ห้องสอบของ Scarecrow


ภาพรวม Batman: Arkham Asylum – ใครทำ ออกเมื่อไหร่ เล่นอะไรได้บ้าง

มาเรียงข้อมูลให้เห็นภาพกันก่อน

  • ผู้พัฒนา: Rocksteady Studios
  • แนวเกม: แอ็กชัน-ผจญภัย มุมมองบุคคลที่สาม เน้นต่อสู้ ลอบเร้น สำรวจ
  • ฉาก: เกาะ Arkham Island ที่มีทั้งตึก Asylum หลัก, โรงพยาบาล, คุก, ถ้ำใต้ดิน และพื้นที่รกร้าง
  • โทนเรื่อง: ดาร์ก หวาดระแวง แต่สไตล์แบทแมน – มีทั้งความจริงจังและจิกกัดแบบ Joker
  • โครงสร้างเวลา: ทุกอย่างเกิดขึ้นใน “คืนเดียว” ที่ Joker วางแผนยึดเกาะ

ความรู้สึกโดยรวมคือ เกมนี้เหมือน “ซีซันพิเศษของการ์ตูน Batman” ที่เราควบคุมได้เองตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่ใช่แค่กดดูคัตซีน


พล็อตแบบไม่สปอยล์ยับ: คืนมรณะที่ Arkham

เปิดเกมมา แบทแมนจับ Joker ได้อีกแล้ว (ตามสูตร) หลังจากมันบุกโจมตีที่ว่าการเมืองของ Gotham โดยไม่มีเหตุผลชัดเจน
แต่คราวนี้มีอะไรแปลก ๆ

  • Joker ยอมให้จับง่ายเกิน
  • แบทแมนเลยตัดสินใจ “ไปส่งเอง” ที่ Arkham Asylum
  • แน่นอนว่า Joker วางแผนไว้แล้วทั้งหมด มันหลุดออกจากพันธนาการกลางทาง แฮ็กระบบรักษาความปลอดภัย และปล่อยนักโทษ/ผู้ป่วยจนเกาะระเบิดความโกลาหลในไม่กี่นาที

ตั้งแต่นั้น Batman ก็ต้อง

  • รับมือกับลูกสมุน Joker จำนวนมหาศาล
  • เจอวายร้ายตัวอื่นที่ถูกปล่อยออกมาด้วย เช่น Bane, Poison Ivy, Killer Croc, Zsasz ฯลฯ
  • สืบให้ได้ว่า Joker กำลังทำอะไรกับสารลับที่ชื่อ “Titan”
  • ป้องกันไม่ให้สถานการณ์ลุกลามจน Gotham ทั้งเมืองซวยไปด้วย

ทั้งหมดเกิดขึ้นในคืนเดียวบนเกาะเดียว ความรู้สึกคือเหมือนโดนขังในงานเลี้ยงรวมเหล่าวายร้าย แล้วเราคือเจ้าภาพที่ต้องเก็บโต๊ะเก็บแขกทั้งหมดเอง


ทำไม Batman: Arkham Asylum ถึงโคตรสำคัญในวงการเกมฮีโร่

ก่อนยุค Arkham เกมลิขสิทธิ์ซูเปอร์ฮีโร่ส่วนใหญ่จะเป็นแนว

  • ทำตามหนัง – ออกพร้อมหนังโรง เนื้อหาสั้น รีบจบ
  • ใช้ชื่อแบรนด์ดังมาขาย แต่ระบบเล่นธรรมดามาก
  • บางเกมสนุก แต่ไม่ค่อยมีใครถึงขั้นเรียกว่า “เกมดีระดับขึ้นหิ้ง”

Arkham Asylum มาพร้อมกับแนวคิดชัด ๆ ว่า

“เราจะทำเกมที่คำโปรยไม่ใช่แค่ ‘เกมแบทแมน’ แต่คือ ‘เกมที่ทำให้คุณได้เป็นแบทแมนจริง ๆ’”

แล้วมันก็ทำได้จริง ๆ เพราะ…

1. ระบบต่อสู้ FreeFlow – สเต็ปหมัดค้างคาวที่ทั้งง่ายและลึก

หัวใจของการต่อสู้ใน Arkham คือระบบที่เรียกกันว่า FreeFlow Combat

  • ปุ่มหลักมีไม่กี่ปุ่ม – โจมตี, เคาน์เตอร์, สตัน, กระโดดหลบ, ใช้แกดเจ็ต
  • ถ้าเรากดแบบมีจังหวะ เลือกเป้าหมายดี ๆ แบทแมนจะ “ไหล” ไปหาศัตรูทีละคน เปลี่ยนเป้าหมายไปเรื่อย ๆ
  • พอทำคอมโบไม่หลุด ตัวละครจะออกท่าทางโคตรเท่ ทั้งจับแขนหัก เตะเข่า ฟาดกับกำแพง

ข้อดีคือ

  • มือใหม่เล่นแป๊บเดียวก็รู้สึก “เฮ้ย ฉันก็เท่นะ”
  • มือเก๋าสามารถเล่นเชิงลึกได้ เช่น เลือกจัดการศัตรูถือปืนก่อน ใช้แกดเจ็ตแทรกกลางคอมโบ ฯลฯ

มันเป็นระบบที่ “เข้าใจง่าย แต่เล่นให้เก่งได้ยาก” แบบที่ดีไซน์เกมชอบมาก และกลายเป็นต้นแบบตามไปอยู่ในเกมอื่นอีกเพียบ

2. ห้อง Predator – เราคือเงาในความมืด

อีกเสาหลักของเกมคือฉากที่เราเจอ

  • ศัตรูถือปืน
  • มีหลายคน เดินลาดตระเวนในห้องใหญ่ ๆ

ถ้าเราโดดลงไปต่อยตรง ๆ มีสิทธิ์ละลายภายในสามวินาที เกมเลยบังคับให้เล่นแบบ Predator

  • แบทแมนโหนขึ้นไปบน Gargoyle เหนือเพดาน
  • ใช้ Detective Mode มองพฤติกรรมศัตรู
  • เลือกจัดการเป้าหมายทีละคนด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น
    • ห้อยลงไปลากขึ้นไปบนคาน
    • ดึงเข้ามาน็อกเงียบ ๆ จากช่องระบายอากาศ
    • วาง Explosive Gel ไว้บนพื้นแล้วล่อให้เดินมาเหยียบ

ยิ่งเราจัดการได้เนียนศัตรูก็ยิ่งตื่นกลัว

  • เริ่มเดินชิดกัน
  • เริ่มยิงมั่ว
  • เริ่มพูดอะไรประมาณ “เขาอยู่ไหนวะ”

นี่แหละคือฟีล “แบทแมนเวอร์ชันตัวจริง” – ไม่ใช่แค่ตีแรง แต่ใช้ความกลัวเป็นอาวุธหลัก

3. Detective Mode – เราไม่ได้แค่ต่อย แต่ใช้สมองด้วย

ในหลายฉาก เราต้อง

  • สืบเส้นทางของคนร้ายจากร่องรอยต่าง ๆ
  • ใช้โหมดตรวจสอบพิเศษที่ทำให้เห็น
    • โครงกระดูกศัตรู
    • รอยเลือด
    • ลายนิ้วมือ
    • ร่องรอยสารเคมี

มันทำให้เกมไม่ได้เป็นแค่แอ็กชันล้วน ๆ แต่มีโมเมนต์ “นักสืบ” ตามชื่อ สมัคร UFABET World’s Greatest Detective ของแบทแมนแทรกตลอดทาง


เลเวลดีไซน์: เกาะเดียวแต่แน่นเหมือนดันเจียนใหญ่

หลายคนชอบ Arkham Asylum เพราะมันไม่ใช่ open world ใหญ่ ๆ แต่เป็น เกาะขนาดพอดี ที่ออกแบบมาอย่างตั้งใจ

โครงสร้างแบบกึ่ง Metroidvania

เกาะ Arkham แบ่งเป็นหลายโซน เช่น

  • ตึก Asylum หลัก
  • โรงพยาบาล
  • คุกเลวร้ายใต้ดิน
  • เรือนกระจกของ Ivy
  • ถ้ำและอุโมงค์ต่าง ๆ

ตอนแรกเราเข้าไปได้ไม่ทุกที่ ต้องค่อย ๆ

  • ได้ Gadget ใหม่
  • กลับไปพื้นที่เดิมเพื่อเปิดทางลับ
  • หา Riddler Trophy หรือไฟล์ลับที่เคยไปไม่ถึง

ฟีลคล้ายเล่นเกม Metroidvania ในร่างแบทแมน – ยิ่งมีของมากขึ้น โลกก็ยิ่งเปิดกว้างขึ้น

Pace ของเกม: กระชับแต่เข้มข้น

เวลาเล่นจริง ๆ ตัวเกมยาวราว ๆ 8–12 ชั่วโมง (แล้วแต่จะเก็บของแค่ไหน)

ข้อดีคือ

  • ไม่มีช่วง open world ที่ “โล่งเกินไป”
  • ทุกพื้นที่มีอะไรให้ทำ – สู้ ลอบเร้น แก้ปริศนา ฟังบทสนทนา

คือถ้าคุณมีวันหยุดยาว 1 วัน นั่งเล่นตั้งแต่บ่าย ๆ ถึงดึก ๆ มีโอกาส “เก็บทั้งเกาะ Arkham ในคืนเดียว” ได้แบบอินเข้ากับเนื้อเรื่องจริง ๆ


บรรยากาศ: เพลง แสง สี เสียง ที่ทำให้เกาะ Arkham มีชีวิต (แบบไม่ค่อยน่าไป)

โทนภาพและเสียง

Arkham Asylum ใช้โทนภาพมืด ๆ เขียว ๆ ออกแนวกดดันหน่อย

  • ฉากในอาคารจะสลัว ๆ มีเสียงไฟนีออนแว่ว ๆ
  • พื้นที่กลางแจ้งในเกาะก็ยังรู้สึกเหมือน “สวนหลังบ้านของคนบ้า” อยู่ดี

ดนตรีก็ช่วยเสริมความรู้สึกตึงเครียดตลอดเวลา

  • ตอนเดินสำรวจ – เพลงหลอนเบา ๆ กดดันแบบหนังสืบสวน
  • ตอนสู้ – ดนตรีพุ่งให้รู้สึกว่าเราเป็นฮีโร่
  • ตอนเจอ Scarecrow – เพลงและเสียงจะเพี้ยน ๆ จนรู้สึกเหมือนฝันร้าย

เสียงพากย์ระดับตำนาน

หัวใจอีกส่วนคือเสียงพากย์

  • แบทแมนใช้เสียงทุ้มขรึม มีโทนสองแบบ – โหมดคุยปกติ กับโหมดข่มขวัญ
  • Joker เสียงกวนประสาท บ้า ๆ บอ ๆ แต่มีเสน่ห์
  • Harley Quinn ทั้งน่ารักและน่าตบ (ในเชิงเนื้อเรื่องนะ 555)

การที่เสียงตัวละครทำได้ถึง ทำให้ทุกคัตซีนและทุกบทสนทนาบนลำโพงตามผนัง Asylum รู้สึก “มีชีวิต” มากกว่าแค่ตัวหนังสือบนจอ


แกดเจ็ตของแบทแมน: Utility Belt ไม่เคยเป็นแค่พร็อพ

พูดถึงแบทแมนแล้วไม่พูดถึงของเล่นไม่ได้

ใน Arkham Asylum เราจะได้ใช้แกดเจ็ตหลายอย่าง เช่น

  • Batarang – ปามึน ปาตัดเชือก ปัดของ ฯลฯ
  • Explosive Gel – วาดรูปค้างคาวบนกำแพงแล้วกดระเบิดทีหลัง (เท่เฉย)
  • Batclaw – ดึงป้าย ดึงศัตรู หรือเปิดเส้นทาง
  • Line Launcher – ยิงเชือกให้แบทแมนไถข้ามเหว
  • Cryptographic Sequencer – เครื่องแฮ็กประตูและระบบไฟฟ้า

ข้อดีคือเกมออกแบบพื้นที่ให้ทุก Gadget มีประโยชน์จริง ไม่ใช่ให้มาโชว์เท่ ๆ

  • บางห้องต้องใช้ Explosive Gel เปิดผนังถึงจะผ่านได้
  • บางที่ถ้าไม่ใช้ Batclaw ดึงของบางอย่าง ก็จะพลาดทางลับ
  • ในห้อง Predator การใช้ Gadget ผสมกันจะทำให้จัดการศัตรูได้เนียนขึ้นเยอะ

มันเลยให้ฟีลเหมือนเราเป็นคน “คิดหน้างาน” ว่าควรหยิบอะไรมาใช้ ไม่ใช่แค่กดปุ่มอัลติเมตแล้วหมดเรื่อง


Riddler Challenge: ปริศนาและโทรฟี่ที่ทำให้เกาะนี้ไม่เงียบเหงา

ตลอดเกาะ Arkham เราจะได้ยินเสียงคนนึงวอนท์มากคือ The Riddler ที่คอยท้าทายเรา

  • ซ่อน Riddler Trophy ไว้แทบทุกมุม
  • ทิ้งปริศนาข้อความให้เราหาสิ่งของ/สัญลักษณ์ในฉาก
  • แอบเก็บข้อมูลคนใน Arkham ไว้ให้เราเปิดอ่านทีหลัง

การเก็บของพวกนี้

  • ช่วยให้เราได้ XP เพิ่ม ปลดล็อกสกิล
  • เติมเนื้อเรื่องเสริมว่าแต่ละตัวละครใน Arkham มีภูมิหลังบ้าแค่ไหน

ใครเป็นสาย Completionist มีสิทธิ์วนในเกาะนี้อีกหลายชั่วโมงหลังจบเนื้อเรื่องหลักแน่นอน


Boss Fight – บางตัวธรรมดา บางตัวโคตรจำได้

พอพูดถึง Arkham Asylum หลายคนจะนึกถึง Boss อยู่ไม่กี่ตัว (และหนึ่งในนั้นคือฉากที่โดนบ่นบ่อยมากตอนจบ 555) แต่โดยรวมแล้ว Boss ของเกมนี้มีความหลากหลายประมาณหนึ่ง

  • บางตัวเน้น “อ่านแพทเทิร์น” แล้วใช้ Gadget จัดการ
  • บางตัวเน้น “บรรยากาศ” มากกว่าความยาก เช่น ฉากของ Scarecrow ที่เหมือนเราไปอยู่ในโลกฝัน
  • บางตัวเน้นโชว์พลัง Titan แบบกล้ามบวมน้ำ จนรู้สึกว่าหมัดแบทแมนแทบจมไม่เข้า

อาจไม่ใช่ Boss Design ที่ดีที่สุดในซีรีส์ และหลายคนยอมรับว่าฉากจบกับ Joker ดู…แปลก ๆ ไปหน่อย แต่ห้องบางห้อง (โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับ Scarecrow และ Croc) ก็กลายเป็นฉากจำในใจแฟน ๆ ไปเลย


Arkham Asylum vs Arkham City: ทำไมหลายคนยังเลือกภาคแรก

ภาคต่ออย่าง Arkham City ขยายสเกลจากเกาะเล็ก ๆ ไปเป็น “เมืองกักกันทั้งย่านของ Gotham” มีเควสต์เสริมเยอะขึ้น อิสระมากขึ้น แต่แฟนหลายคนยังบอกว่า

“ถ้าเอาเรื่องความแน่นและบรรยากาศอึดอัด ภาค Asylum กินขาด”

เพราะว่า

  • Asylum มีโฟกัสชัด – เรื่องราวคืนเดียวในสถานที่เดียว
  • เลเวลดีไซน์เน้นการกลับไปกลับมาพื้นที่เดิม แต่เปิดอะไรใหม่ทุกครั้ง
  • โทนความ “ติดอยู่ในนรกของคนบ้า” ชัดกว่าเมืองเปิดที่มีหลายย่าน

พูดง่าย ๆ คือ Arkham City อาจจะให้ฟีล “แบทแมนในเมืองใหญ่” แต่ Arkham Asylum ให้ฟีล “คืนหนึ่งในฝันร้าย” ที่จบแล้วเรายังจำรายละเอียดได้เกือบหมด


อยากเล่น Batman: Arkham Asylum ในยุคนี้ ทำยังไงดี

ถึงเกมจะออกมานานแล้ว แต่การกลับไป Arkham ในยุคนี้ไม่ใช่เรื่องยากเลย

เล่นบนคอนโซลยุคปัจจุบัน

มีชุด รีมาสเตอร์ ที่รวม Arkham Asylum ไว้ด้วย

  • บนเครื่องตระกูล PlayStation / Xbox รุ่นใหม่ จะมีแพ็กที่รวม Arkham Asylum + City (และบางชุดมี Knight) ให้เล่นแบบภาพปรับปรุงแล้ว
  • รองรับการเล่นบนทีวี HD/FHD/4K แบบไม่กระตุก (ขอให้เครื่องคุณไม่แก่กว่าคนเขียนก็พอ)

เล่นบน PC

บน PC ยังหาตัวเกมเวอร์ชัน Game of the Year Edition ได้ตามร้านดิจิทัลต่าง ๆ

  • ข้อดีคือปรับความละเอียดได้ตามใจ
  • ถ้ามีม็อดจากแฟน ๆ ก็เสริมภาพ/แสง/เงาให้ดีขึ้นได้อีก

เล่นบนเครื่องพกพา

ถ้ามีแพลตฟอร์มพกพารุ่นใหม่ ๆ ที่รองรับ จะมีชุดที่รวมเกม Arkham ให้เล่นได้แบบ “ไป Arkham บนรถไฟ” ก็ยังได้ (แม้คิด ๆ ดูแล้ว ใครจะกล้าเล่นห้อง Scarecrow ในที่สาธารณะก็อีกเรื่องหนึ่งนะ)


ทิปส์เล็ก ๆ ถ้าจะกลับไป Arkham ครั้งแรก/รอบสอง

1. อย่ารัวปุ่มตอนสู้ – จังหวะสำคัญกว่าความแรง

ระบบ FreeFlow จะให้รางวัลกับคนที่

  • กดโจมตีตามจังหวะที่ตัวละครฟาดโดน
  • กดเคาน์เตอร์ตอนศัตรูหัวขึ้นสัญลักษณ์
  • ใช้แกดเจ็ตแทรกกลางคอมโบบ้างเป็นบางจังหวะ

ถ้ารัวมั่ว ๆ จะกลายเป็นแบทแมนเวอร์ชัน “โดนรุมจนมุม” แทนที่จะเป็นอัศวินรัตติกาลสุดเท่

2. ห้อง Predator – คิดแบบค้างคาว ไม่ใช่ Rambo

  • ขึ้นไปเกาะบน Gargoyle ก่อนเสมอ
  • สแกนเส้นทางศัตรู ดูว่าใครเดินหลุดกลุ่ม
  • ทำคนแรกให้เนียนที่สุด เพื่อให้คนอื่นเริ่มกลัว
  • อย่าฆ่าหรือทำรุนแรงแบบเลือดสาด – แบทแมนไม่ใช่ Punisher 😂

ยิ่งเราเล่นกับ “ความกลัว” ของศัตรูได้ดีเท่าไหร่ ห้องเหล่านี้ยิ่งสนุก

3. สำรวจบ่อย ๆ Arkham ไม่ได้มีแค่ทางหลัก

แวะ

  • มองกำแพงแตก ๆ เผื่อใช้ Explosive Gel เปิดทางได้
  • มองช่องระบายอากาศที่ดูน่าสงสัย
  • ฟังคำพูดศัตรู – บางครั้งมันบอกใบ้ทางลับแบบเนียน ๆ

การเดินออกนอกเส้นทางหลักนิดหน่อย อาจพาเราไปเจอ Riddler Trophy หรือไฟล์ลับที่ช่วยให้เข้าใจโลกของเกมมากขึ้น

4. อย่ากลัวที่จะลดความยาก

ถ้ารู้สึกว่าศัตรูยิงแรงเกินไป หรือคอมโบไม่เข้าใจจังหวะจริง ๆ การลดความยากลงไม่ใช่เรื่องน่าอายอะไร เกมนี้เน้นประสบการณ์ “ได้เป็นแบทแมน” มากกว่าจะมานั่งพิสูจน์ความเป็นโปรเกมเมอร์


FAQ – คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับ Batman: Arkham Asylum

ถาม: ถ้าไม่เคยเล่นเกมซูเปอร์ฮีโร่มาก่อน เริ่มที่ Arkham Asylum โอเคไหม?
ตอบ: โอเคมาก เพราะระบบพื้นฐานเข้าใจไม่ยาก ปุ่มไม่เยอะ และเกมค่อย ๆ สอนทุกอย่างตั้งแต่การต่อสู้ การใช้แกดเจ็ต ไปจนถึงการลอบเร้น ใครที่เคยเล่นเกมแอ็กชันบุคคลที่สามมาบ้างจะปรับตัวได้เร็ว


ถาม: ต้องเล่น Arkham Asylum ก่อน Arkham City/Arkham Knight ไหม?
ตอบ: แนะนำให้เล่นตามลำดับจะดีที่สุด เพราะเนื้อเรื่องต่อเนื่องกัน ตัวละครและความสัมพันธ์ถูกปูจากภาคแรกไปเรื่อย ๆ ถ้าเริ่มจาก City หรือ Knight ก่อนก็เล่นรู้เรื่อง แต่อาจพลาดหลายโมเมนต์ “อ๋ออออ” ที่มาจากเหตุการณ์ใน Asylum


ถาม: เกมนี้กลัวไหม ถ้าไม่ค่อยชอบอะไรแนว horror?
ตอบ: มีบรรยากาศหลอน ๆ อยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะฉากที่เกี่ยวกับ Scarecrow กับ Arkham ใต้ดิน แต่เกมโดยรวมจะเป็นโทนแอ็กชันซูเปอร์ฮีโร่มากกว่า horror จ๋า ถ้ารับหนังแบทแมนยุคโทนมืด ๆ ได้ เกมนี้ก็ไม่น่าจะเกินกำลัง


ถาม: เนื้อเรื่องของเกมนี้เน้นอะไรเป็นพิเศษ?
ตอบ: หลัก ๆ คือการเผชิญหน้าระหว่าง Batman กับ Joker ในคืนที่ Joker วางแผนควบคุม Arkham ทั้งเกาะ พร้อมธีมเรื่องความบ้าคลั่ง ความกลัว และเส้นแบ่งระหว่าง “ฮีโร่ในหน้ากาก” กับ “วายร้ายในหน้ากาก” ที่บางทีบางตอนก็ไม่ได้ห่างกันมากเท่าไหร่


ถาม: ถ้าอยากเล่นแค่ภาคเดียว Arkham Asylum พอไหม หรือควรไป City/Night ด้วย?
ตอบ: ถ้าเล่นแค่ภาคเดียว Arkham Asylum ก็ให้ประสบการณ์เต็ม ๆ ครบจบในตัวเองได้เลย แต่ถ้าชอบแล้ว แทบทุกคนจะไหลต่อไป Arkham City แบบไม่ต้องคิด เพราะอยากเห็นว่าหลังจากคืนนั้นใน Arkham โลกของแบทแมนจะเปลี่ยนไปยังไง


สรุป: Batman: Arkham Asylum คืนหนึ่งในเกาะคนบ้าที่เรายังอยากกลับไปเยือน

สุดท้ายแล้ว Batman: Arkham Asylum ไม่ใช่แค่ “เกมเก่าปี 2009 ที่เคยดัง” แต่มันคือ

  • จุดเปลี่ยนที่พิสูจน์ว่าเกมลิขสิทธิ์ซูเปอร์ฮีโร่ “สามารถดีมาก ๆ ได้” ไม่ใช่แค่เกมประกอบหนัง
  • งานดีไซน์ที่รวมการต่อสู้ ลอบเร้น สืบสวน และเลเวลแบบ Metroidvania เบา ๆ ไว้ด้วยกันอย่างลงตัว
  • ประสบการณ์ที่ทำให้เราได้สัมผัส “คืนหนึ่งในชีวิตแบทแมน” แบบเต็ม ๆ ทั้งมุมเท่ มุมบ้า และมุมมืดของ Arkham

ในยุคที่เกมใหม่ ๆ วิ่งเข้าสู่โลกเปิดขนาดมหึมา และระบบเยอะจนเมนูเกินครึ่งจอ การกลับไปเล่นเกมที่มีพื้นที่จำกัดแต่ “แน่นทุกตารางเมตร” อย่าง ยูฟ่าเบท Arkham Asylum เป็นการเตือนให้เรานึกได้ว่า

ถ้าเนื้อหาแน่น พื้นที่ไม่ต้องใหญ่ก็ได้
ถ้าระบบเข้าใจง่ายแต่ลึกพอ เราก็รู้สึกเป็นฮีโร่เต็มตัวได้เหมือนกัน

และเมื่อไหร่ที่คุณอยากใช้คืนวันว่างให้กลายเป็น “คืนมรณะบนเกาะ Arkham” อีกครั้ง แค่หยิบจอย เปิดเกม แล้วปล่อยให้เสียง Joker ดังขึ้นในหูฟัง พร้อมประโยคที่เหมือนทักทายเก่า ๆ ว่า

“Welcome back to the madhouse, Batman…”

แล้วคุณจะรู้เลยว่าถึงเวลาหยิบผ้าคลุมขึ้นมาใส่อีกครั้ง (แม้ในชีวิตจริงจะมีแค่ผ้าห่มบนโซฟาก็ตาม) – เพราะในโลกของ Batman: Arkham Asylum คุณคือแบทแมนจริง ๆ ไม่ใช่แค่คนดู 🦇